ตรัง
ตรัง
1. ต้องมนต์เสน่ห์ทะเลใต้ จ.ตรัง
หากยังไม่รู้จะไปเที่ยวทะเลที่ไหน ตามเรามุ่งลงใต้ไปเที่ยวตรังดีกว่า เพราะมีเกาะน้อยใหญ่ให้พักหย่อนใจไม่รู้เบื่อ จะไปเล่นน้ำหรือนั่งเรือรอบเกาะ รอพบพะยูนที่ เกาะลิบง ลอดถ้ำชมความงามของ ถ้ำมรกต ที่ เกาะมุก ดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่ เกาะแหวน ดำดิ่งดูปะการังที่ เกาะไหง หรือจะพาหวานใจไปสวีตที่ เกาะกระดาน ก็ได้ รับรองว่าเกาะงามแห่งทะเลใต้เมืองตรังมีอะไร ๆ ให้ประทับใจไม่ลืมจริง ๆ
ตรัง เมืองหมูย่างรสเลิศ เสน่ห์หาดทรายงาม
2. เดินดงมอหินขาว จ.ชัยภูมิ
"สโตนเฮนจ์เมืองไทย" ใคร ๆ เรียกกันเช่นนั้น เพราะเหล่าหินผายืนตัวสูงเด่นมองเห็นแต่ไกล น่าอัศจรรย์ใจไม่ต่างกับสโตนเฮจน์ แห่งที่ราบซัลลิสเบอร์รี่ที่อังกฤษ กลุ่มหินเหล่านี้อายุ 195-175 ล้านปี เกิดการเปลี่ยนรูปทรงไป เมื่อเปลือกโลกเคลื่อนตัวกลายเป็นเสาหินประหลาด เช่น เสาหิน 5 ต้น เสาหินโขลงข้าง สวนหินล้านปี หน้าฝนที่นี่จะเต็มไปด้วย ดอกไม้ป่า ขณะที่ยามค่ำมีดาวให้นอนนับแสนล้านดวง เมื่อผนวกกับเรื่องเล่าว่า ทุกคืนวันพระจะมีแสงสีขาวส่องสว่างจากมอหิน ก็ยิ่งสร้างความพิศวงแก่เราผู้มาเยือน
คืนมหัศจรรย์นอนนับดาวที่ มอหินขาว
สามพันโบก
สามพันโบก
สามพันโบก
สามพันโบก
3. ฝ่าแดดสู่ สามพันโบก จ.อุบลราชธานี
เกาะแก่งกลางลำน้ำโขงที่ผุดขึ้นยามฤดูร้อน แล้งน้ำกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างน่าทึ่ง แม้เปลวแดดจะร้อน แต่ผู้ชื่นชมธรรมชาติอย่างเรายังมุ่งมั่นเดินฝ่าแดด เพื่อชมโบกหรือแอ่งน้ำขิงที่สะท้อนเงาปุยเมฆขาว แก่งหินรูปทรงสวยประหลาดตามแต่จินตนาการ ชมสายน้ำโขงไหลเอื่อยใต้ผืนฟ้ากว้าง พอแดดร่มก็คลายร้อนด้วยการแกว่งเท้าเล่นในน้ำ เพื่อนบางคนกระโดดเล่นน้ำในสระมรกตใสแจ๋วกลางแก่งหิน แล้วนั่งชมอาทิตย์ลับฟ้า ณ สามพันโบก...โรแมนติกสุด ๆ
มหัศจรรย์ สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองไทย
4. ดูบัวตองที่ ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน
สีเหลืองสดของดอกบัวตองช่างล่อตาล่อใจนัก เทศกาลชมดอกบัวตองในฤดูหนาวที่ผ่านมา เราจึงยอมนั่งรถไกลไปหลายร้อยโค้งเพื่อขึ้น ดอยแม่อูคอ ไปชมเจ้าหล่อนซะหน่อย แล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะปีนี้ กลีบดอกบานเบ่งสะใจผู้ชมอย่างเรา และหากเดินทางไปอีกหน่อยก็จะมี น้ำตกแม่อูคอ และ น้ำตกแม่สุรินทร์ ที่น่าไปเที่ยว หรือจะแวะไปถ้ำชมความงามน่ามหัศจรรย์ของผลึกแร่แคลไซต์ที่ วนอุทยานแก้วโกมล ต่อด้วยเดินชม ช่องแคบเขาขาด ที่สูงร่วม 32 เมตร ที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงเหมือนที่เราไปมาก็ได้
ดอยแม่อูคอ ขุนเขาแห่งทะเลดอกไม้สีทอง จ.แม่ฮ่องสอน
ดอยภูคา น่าน
5. นางพญาเสือโคร่งบน ดอยภูคา จ.น่าน
หากสีชมพูแทนความหวานแห่งรักเมืองน่าน ก็คงตกอยู่ในห้วงรักทุกครั้งที่ ดอกนางพญาเสือโคร่ง บาน ในช่วงต้นปีเมืองน่านคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว ที่อยากมาชมดอกไม้งามชนิดนี้ โดยเฉพาะที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งเส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว แต่เราก็ไม่หวั่นค่ะ เราไปกางเต็นท์พักแรมนอนดูดาว ตื่นเช้าเดินชมสายหมอกดอกไม้ แล้วต่อด้วยการแอ่วเมือง สัมผัสชีวิตอิ่มสุขแบบชาวน่านที่หลายคนอิจฉา
แอ่ว ดอยภูคา ชมดอกชมพูภูคาบานสะพรั่ง
6. พิงใจอิงเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร
สายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกับคนไทยมานาน จนบางครั้งอาจถูกมองข้ามความสวยงามตรงหน้า โดยเฉพาะคนเมืองที่คุ้นเคยกับวิวสวยของตึกสูง จริง ๆ ไม่ว่าจะเวลาไหนเจ้าพระยาก็สะท้อนความงามให้เราเห็นได้เสมอ หาเวลาว่างสักวันไปล่องเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยากันเถอะ เริ่มจากไหว้พระที่วัดเก่าแก่ ชมสถาปัตยกรรมริมน้ำแวะกินของอร่อย ๆ ที่ทำเรือต่าง ๆ พอแดดเริ่มอ่อนแรงก็หามุมนั่งชมวิวเจ้าพระยายามเย็น...เป็นความสุขง่าย ๆ ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง
ล่องเจ้าพระยาไหว้พระ 9 วัด เสริมสิริมงคล
นั่งเรือด่วนล่องเจ้าพระยา เลียบเกาะรัตนโกสินทร์
7. พิศวงม่อนเสาหิน จ.แพร่
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันเกิดจากการประทุของภูเขาไฟ เปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของเมืองแพร่ มีลักษณะเหมือนนำแท่งหินมากองรวมกันจนกลายเป็นภูเขาสูงชาวบ้านเรียก “ม่อนหินกอง” ก่อนเปลี่ยนเป็น ม่อนเสาหิน เราสามารถเดินชมม่อนตามจุดต่าง ๆ เช่น ม่อนเจ้าอาจญาม่อนเจ้าดำ ม่อนปู่หมื่นลอง แต่จุดถ่ายภาพสวยสุดคือ ม่อนเสาหินพิศวง ที่แท่งหินเรียงตัวคล้ายหน้าผา เหมือนแท่งหินไจแอนต์ คอสเวย์ ในไอร์แลนด์เหนือและที่เมืองซีนอปในตุรกี
มาแอ่วแพร่กันเต๊อะ
8. เที่ยวทะเลาจันท์วันฟ้าแจ่ม จ.จันทบุรี
อยากเที่ยวทะเล...แต่ไม่อยากไปไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แค่พุ่งตรงไปเมืองจันท์ก็จะได้ชื่นชมทะเลตะวันออกที่สวยงาม ไม่แพ้ทะเลใต้แม้แต่น้อย และถ้าไม่อยากออกทะเล แวะไป อ่าวคุ้งกระเบน ก็มีกิจกรรมทำเพลิน ๆ เช่น เดินศึกษาระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ดูพันธุ์สัตว์น้ำที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำของกรดประมง ไปเที่ยวชมวิวที่ หาดคุ้งวิมาน นั่งกินส้มตำชายหาด และเดินเล่นในเมืองเก่าจันทบูร เท่านี้ก็มีความสุขมากมายในวันพักผ่อนชายทะเลใกล้กรุงเทพฯ
เมืองแห่งความสุข ที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี...จันทบุรี
9. ผลิบานบนลานผาแต้ม จ.อุบลราชธานี
หน้าหนาวใคร ๆ ก็ไป อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เพื่อชมความงามของทุ่งดอกไม้ป่า ประมาณว่ามีดอกไม้มากกว่า 30 สายพันธุ์แข่งกันบานบนลานหินกว้างกว่า 30 ไร่ เช่น ดอกดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร ฯลฯ หลอกล่อเหล่าแมลง รวมถึงนักถ่ายภาพให้ใช้เวลาเก็บภาพสวย ๆ กันอยู่นาน ไม่ไกลกัน ยังมองเห็นน้ำตกสร้อยสวรรค์ และทิวทัศน์ฝั่งลาวได้อีกด้วย
ผาแต้ม งดงามทางธรรมชาติและอารยธรรม
10. สะแกกรังยังสงบงาม จ.อุทัยธานี
จนถึงวันนี้แม่นำสะแกกรังยังคงมอบความสุขแก่ทุกชีวิต แม้แต่เราที่มีโอกาสนั่งเรือกินมื้อกลางวัน ชมชีวิตเรือนแพที่ยังมีให้เห็นอยู่ประปราย ตื่นเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่ง ตักบาตรกับพระในเรือพาย แล้วไปเดนิตลาดเข้า ก่อนไปไหว้พระขอพร เดินชมภาพจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ภายในวัดอุโปสถารามที่ทอดเงาอย่างสงบนิ่งในสายน้ำ...เป็นความสุขใจที่ผู้อ่านไปสัมผัสได้เช่นกัน
วันแห่งความสุข ณ ลุ่มน้ำสะแกกรัง
11. เพลินใจ เกาะไข่ จ.ภูเก็ต
หากคุณรักทะเลและการดำน้ำ ต้องไม่พลาด เกาะไข่ แห่งทะเลอันดามันไม่ว่าจะเป็น เกาะไข่ใน ไข่นอก และไข่นุ้ย ล้วนเดินทางสะดวกด้วย สปีดโบ๊ต นอกจากรูปทรงของเกาะที่มีหาดขาวสะอาดตัดกับน้ำทะเลครามสีเข้ม และมีโขดหินตั้งสูงให้ปืนป่ายขึ้นไปนั่งชมทะเล จุดเด่นของเกาะนี้อยู่ที่เป็นแหล่งดำน้ำตื้นอันขึ้นชื่อ จะดำน้ำดูปลาเสือ ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน ไปจนถึงปะการังเขาอ่อนและหินซ้อนก็เพลินได้ทั้งวันเลยล่ะ
ล่องทะเล เที่ยวเกาะสวรรค์ เกาะไข่นอก
12. สุขใจไปกับสายน้ำปิง จ.ลำพูน
เราเดินทางไปไหว้พระธาตุหริภุญไชย จึงมีโอกาสไปล่องเรือชมทัศนียภาพลำน้ำปิงในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง โดยลงเรือที่แก่งก้อชมทิวทัศน์สองฝั่งน้ำ ที่มีทั้งโตรกผาสูงสลับกับหินงอกหินย้อยระสายน้ำ แล้วล่องไปแก่งสร้อยดูซากกำแพงและเจดีย์โบราณของ วัดพระธาตุแก่งสร้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเมืองสร้อยอายุ 800 ปีที่จมลงใต้ผืนน้ำ จากนั้นนั่งชมพระอาทิตย์ตกบน ดอยกระตึก ก่อนกลับมาอร่อยกับมื้อค่ำที่เรือนพักริมน้ำปิงอย่างสุขใจ
ที่มา: http://travel.kapook.com/view25345.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น